ทำไม? ต้องเสียภาษี 7% (vat 7%)

ทำไม? ต้องเสียภาษี 7%


VAT หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม 

ทำความรู้จักกับภาษีมูลค่าเพิ่มกันก่อนดีกว่า รู้หรือไม่ว่าภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร  (ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อม) ที่เรียกเก็บจาก
  • ผู้ซื้อสินค้า
  • ผู้ใช้บริการ
โดยจัดเก็บเฉพาะมูลค่าส่วนที่เพิ่มเท่านั้น เนื่องจากกิจกรรมของธุรกิจในแต่ละขั้นตอนการผลิตและการจำหน่ายที่แตกต่างกัน 

ยกตัวอย่างการคำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น

  1. ภาษีที่คิดมากับสินค้าแล้ว
    เช่น เซเว่น ตัวอย่างง่ายๆคือ สินค้าที่เราซ์้อในเซเว่น 100 บาท สามารถคำนวนราคาสินค้าที่แท้จริงได้คือ 100-7= 93 บาท
  2. ภาษีที่บวกเพิ่มอีก 7% จากราคาสินค้าและบริการ
    เช่น เสียค่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 590 บาท แต่ผู้บริโภคต้องจ่ายค่า vat 7% ด้วย
     วิธีคิดก็คือ  590 x 7/100 = 41.30 บาท นั้นคือผู้บริโภคหรือลูกค้าต้องชำระเงินทั้งสิ้น 631.30 บาท

บุคคลที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มคือ

  1. ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจ
  2. วิชาชีพในรูปแบบของบุคคลธรรมดา 
  3. คณะบุคคลห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล
  4. นิติบุคคลใดๆที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือบริการ
ทั้งหมดนี้หมายถึงผู้มีรายรับเกินกว่า 1.8 ล้านบาท / ปี จะต้องมีหน้าที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดเที่ยบ

วิธีคำนวณภาษีที่ต้องชำระ

ภาษีที่ต้องชำระ = ภาษีขาย - ภาษีซื้อ

**ทำไมอยู่ๆ รัฐบาลจึงมีการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% 

จริงๆแล้วประเทศไทยได้มีการกำหนดภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 7% มาทั้งแต่ปี พ.ศ.2535 นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยบังคับใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มและภายหลังประเทศไทยเกิดวิกฤต เศรษฐกิจต้มยำกุ้ง จึงได้มีการปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาเป็น 10% ในปี พ.ศ. 2540 ต่อมาปลายปี พ.ศ.2540 ได้มีการเปลี่ยนรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้มีการปรับลดภาษีจาก 10% กลับมาเป็น 7% แต่ก็มีการปรับกลับไปกลับมาหลายครั้งแต่เนื่องด้วย สภาวะลอยตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จึงทำให้ยังคงใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เหมือนเดิม


    ติดต่อเราได้ที่ https://www.facebook.com/4gADVANCED/

    ความคิดเห็น

    โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

    AIS บริการที่ลูกค้าทำได้เอง

    ยกเลิกเน็ต AIS

    ปัจจัยที่ทำให้ค่าโทรศัพท์มียอดบิลที่สูงขึ้น